ถ้าใครมีลูกจะรู้เลยว่าการดุลูกเป็นเรื่องปกติวิสัยของคุณพ่อคุณแม่มากกกกก
บ้านไหนสังคมใดก็ต้องทำ เพราะเป็นการเตือนลูก
สอนลูกให้อยู่ในทางที่ควรเป็น
แต่การดุลูกไม่ใช่การดุเพื่อความสะใจของคนเป็นคุณพ่อคุณแม่
หรือทำไปเพราะอยากระบายอารมณ์ความคับแค้นใดๆ
เราต้องดุลูกด้วยความรักความเมตตาไม่เหมารวมว่าสิ่งที่ลูกทำ
เป็นนิสัยเสียไปทั้งหมด เช่น เมื่อลูกไปแกล้งเพื่อนข้างบ้าน
อย่าดุลูกในลักษณะที่ว่า ลูกไม่ได้เรื่องอะไรเลยซักเรื่อง วัน ๆ
หาแต่เรื่องมาให้ อะไรทำนองนี้ ปิดปากเราไปเลย
แต่ควรดุลูกและสอนเค้าพร้อมอธิบายเหตุผลแบบจริงจังว่า
แกล้งเพื่อนไม่ดียังไง เพื่อนเจ็บเห็นไหม
แล้วถ้าลูกโดนทำแบบนี้บ้างลูกจะเจ็บและโกรธเหมือนกัน
คือดุให้ลูกเห็นถึงผลลัพท์ที่ลูกทำลงไป ว่าให้ผลเสียอะไรกับตัวเค้าบ้าง
และการดุทุกครั้งต้องดุโดยให้ลูกรู้ว่า คุณพ่อคุณแม่ดุเค้าเรื่องอะไรอยู่
คุณพ่อคุณแม่บางท่านโวยวายใหญ่โตกับลูก โดยที่ลูกยังทำหน้างง ๆ อยู่เลยว่าเค้าทำผิดจนต้องถูกดุเรื่องอะไร เพราะอย่างนี้คุณพ่อคุณแม่จำเป็นมากที่ต้องพูดและดุให้เข้าใจ บอกให้ชัดเจนไปเลยว่า ที่พ่อแม่ดุ ดุเพราะอะไร เรื่องไหนที่ลูกทำผิดจนต้องถูกดุ และบอกลูกไปเลยว่า คราวหลังลูกต้องทำตัวแบบไหน ปรับพฤติกรรมอย่างไรเพื่อไม่ให้โดนดุแบบนี้อีก
“เด็กน้อยวัยนี้หลายคนมีอารมณ์อ่อนไหว ไวต่อความรู้สึกเมื่อโดนดุมากๆ บางคนสิ้นหวังในชีวิตไปเลย ถึงแม้เค้ายังเล็กเค้าก็ไม่ควรได้รับการดุด่ามากเกินไปจนทำร้ายจิตใจ ซึ่งอาจส่งผลให้เค้าเป็นเด็กขาดความมั่นใจในอนาคต”
อย่าโมโหจนขาดสติกับลูก และสอนลูกด้วยวิธีและคำพูดประชดประชัน ต้องสอนเค้าด้วยความรักและความเข้าใจ ยิ่งอยู่ในช่วงวัยที่กำลังซนเป็นอย่างยิ่ง หัวใจเค้าก็กำลังโตและจดจำไปตลอดชีวิตเช่นกัน