ปัจจุบันนี้ยอดผู้ป่วยจากเชื้อไวรัสโคโรน่าเพิ่มขึ้นทุกวัน รายงานจากเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง “dailymail” ได้เปิดเผยว่า กรุงเทพเป็นเมืองที่อันตรายเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากที่สุด โดยอ้างอิงจากสถิติการเดินทางออกนอกประเทศของประชากรเมืองอู่ฮั่น กรุงเทพติดเป็นอันดับ 1 ที่มีสถิติการเดินทางมากที่สุด ลองลงมาก็เป็นจังหวัดภูเก็ตที่อยู่ในอันดับ 7 และเชียงใหม่อันดับที่ 13 ตามลำดับ รายนี้เป็นสถิติการเดินทางของประชากรเมืองอู่ฮั่นที่เข้ามายังประเทศไทยก่อนจะที่มีข่าวระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าอย่างหนักไม่นานมานี้เอง
ดังนั้นเพื่อที่จะรับมือกับโรคระบาดนี้ ผู้ปกครองจะต้องทำให้เด็ก ๆ เข้าใจถึงความอันตรายของโรคชนิดนี้ก่อน และต้องอธิบายด้วยข้อมูลเท็จจริง โดยไม่ทำให้เด็ก ๆ รู้สึกหวาดกลัวหรือเกิดความตื่นตระหนกจนเกินไป
“หนูจะป่วยหรือไม่”
“โรงเรียนของหนูจะปิดหรือไม่”
“ปู่หรือยายของหนูจะตายหรือไม่”
คิดว่าคำถามพวกนี้ ผู้ปกครองหลาย ๆ ท่านคงจะเคยได้ยินจากเด็ก ๆ มาบ้างไม่มากก็น้อย มันเป็นคำถามที่ตรงประเด็นและยากที่อธิบายถึงเหตุผลต่าง ๆ ให้พวกเขาเหล่านั้นเข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
ต้องรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับ Covid-19
Covid-19 เป็นโรคระบบทางเดินหายใจที่เกิดจาก coronavirus สายพันธุ์ใหม่ โดยจะมีอาการ ไข้ขึ้นสูง ไอแห้ง จาม มีน้ำจมูก หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์หรือเร็วกว่านั้น จะเป็นนำไปสู่การหายใจถี่ หายใจเหนื่อยหอบ และเจ็บหน้าอก เป็นต้น การกระจายเชื้อจากคนสู่คน อาจจะเกิดจากการไอหรือจาม หรือไปสัมผัสนํ้าลาย เสมหะ ของผู้ติดเชื้อโดยไม่ตั้งใจ
หากทุกคนยังไม่รู้จักวิธีป้องกันตัวเอง และรับมือกับโรคระบาดไวรัสโคโรน่าหรือ covid-19 ภายในอนาคต ถ้ายังไม่มีการคิดค้นวัคซีนต้านไวรัสโคโรน่าออกมาได้ ก็อาจจะเกิดความสูญเสียของมวลมนุษยชาติครั้งใหญ่ รวมถึงภาวะการขาดแคลนอาหารอีกด้วยโรคนี้จะมีผลกับบุคคลที่ร่างกายอ่อนแอ ร่างกายไม่แข็งแรงสมบูรณ์ อาทิเช่น ในกลุ่มผู้สูงอายุ คนที่สุขภาพอ่อนแอ มีปัญหาด้านสุขภาพ และเด็ก ๆ เป็นต้น เพราะบุคคลเหล่านี้มีมักระบบภูมิคุ้มกันภูมิต้านทานที่ไม่ค่อยดีนัก เมื่อเทียบกับวัยรุ่นหนุ่มสาว ปัญหาหนึ่งในการอธิบายไวรัสโคโรน่า ก็คือมันเป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม้ว่าในอาการป่วยระยะแรกจะมีให้เห็นอยู่บ้าง แต่สำหรับเด็กที่ติดเชื้อ Covid-19 มักจะไม่แสดงอาการที่รุนแรง หรือเห็นได้ชัดมากนัก
มันเป็นเรื่องยากที่สอนให้เด็ก ๆ ตระหนักถึงเรื่องความสะอาดและสุขอนามัยที่ดีเป็นอย่างไร ยิ่งเราไปขู่เข็ญหรือบังคับพวกเขามาก ๆ ก็ยิ่งเหมือนเป็นการแข่งขันที่พวกเขารู้สึกว่าต้องการเป็นผู้ชนะ พูดง่าย ๆ ก็คือ ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ
ใช้ภาษาง่าย ๆ
เราสามารถพูดคุยกับเด็ก ๆ ในเรื่องนี้ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม และไม่ควรแสดงสีหน้ากังวลใด ๆ นอกจากนี้ควรใช้วิธีการพูดที่ใส่อารมณ์ขันลงไปบ้างในบางช่วง และพูดด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกอ่อนโยน สิ่งเหล่านี้จะไม่ทำให้เด็ก ๆ รู้สึกหวาดกลัวจนเกินไป อย่าลืมเน้นย้ำถึงสุขภาพของคุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย ไปด้วยว่าพวกเขามีสุขภาพที่แข็งแรง และพวกเขายังรู้จักวิธีการป้องกันตัวเองให้รอดพ้นจะโรคร้ายอีกด้วย ขอให้เด็กหายห่วงไปได้เลย คุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย แข็งแรงและปลอดภัยดีทุกคน
สำหรับบ้านไหนที่มีเด็กเล็กมาก ๆ แน่นอนว่าการจัดการกับข้อมูลที่ซับซ้อนของเด็กเหล่านี้ค่อนข้างลำบากสักหน่อย เพราะพวกเขายังเด็กมากเกินกว่าจะเข้าใจได้ทั้งหมด นั้นให้พยายามพูดด้วยถาษาที่เข้าใจง่าย ๆ และเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ตั้งคำถาม เพื่อที่เค้าจะได้จดจำได้ดีกว่า การที่เราป้อนข้อมูลใส่ให้ อีกอย่างการให้เด็ก ๆ ตั้งคำถามเป็นการแสดงถึงความสนใจใส่ใจของเด็ก ๆ อีกด้วย
คอยควบคุม
นักจิตวิทยาคลินิกและที่ปรึกษาเกี่ยวกับการเลี้ยงดูลูกกล่าวว่า เด็ก ๆ มักจะเพลิดเพลินรู้สึกตื่นเต้นไปกับเรื่องราวที่น่ากลัวในระดับหนึ่ง แต่พวกเขาไม่ชอบที่ได้ยินเรื่องราวนั้นบ่อย ๆ นัก ยิ่งถ้าเรื่องราวเหล่านั้นเป็นเรื่องที่อยู่ใกล้ตัวพวกเขามากจนเกิน เพราะพวกเขาจะรู้สึกวิตกกังวล ตื่นตระหนก และอาจถึงขั้นหวาดกลัวก็เป็นได้
ดังนั้นเราจะต้องควบคุมการรับสารของเด็ก ๆ ที่อาจจะทำให้พวกเขารู้สึกว่าเป็นภัยคุกคามมากจนเกินไป เราจะต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับการแพร่กระจายของ coronavirus และบอกถึงสิ่งที่เราสามารถทำได้เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ เช่นการสอนเด็ก ๆ ล้างมือบ่อย ๆ โดยการใช้สบู่เหลวที่มีแพคเกจที่น่ารักในขณะการล้างมือ พร้อมด้วยการร้องเพลงแฮปปีเบิร์ดเดย์ 2 รอบเพื่อให้ล้างมือให้สะอาดได้อย่างน้อย 15-20 วินาที เป็นต้น
ทั้งนี้พยายามให้เด็กสวมหน้ากากป้องกัน โดยอาจจะเลือกจากหน้ากากที่มีลวดลายการ์ตูนน่ารัก ๆ และพยายามให้เด็ก ๆ งดสัมผัสใบหน้าด้วยมือที่ยังไม่ได้ล้างให้สะอาด ข้อนี้อาจจะยากไปซักหน่อยสำหรับเด็กเล็ก แต่คุณอาจจะเริ่มจากการให้คะแนนเป็นสติ๊กเกอร์ เมื่อเด็ก ๆ เดินไปล้างมือก่อนจะหยิบอาหารเข้าปากหรือการแคะแกะเกา ส่วนอื่น ๆ ของใบหน้า เป็นการบอกให้เค้ารู้ว่า สิ่งที่เค้านั้นเป็นเรื่องที่ดี โดยการสร้างแรงจูงใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการทำความดี แน่นอนว่ามันเป็นวิธีสำหรับเด็กเล็กที่ค่อนข้างสื่อสารยาก แต่หากเป็นเด็กโตแล้วขึ้นมาหน่อยก็เพียงแต่พูดด้วยเหตุและผลด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและภาษาที่เข้าใจง่าย อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น
ที่สำคัญหากคุณจะต้องกักตัวอยู่ในบ้านกับเด็ก ๆ ในช่วงปิดเทอม เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อจากสถานที่นอกบ้าน เราแนะนำให้คุณพยายามหากิจกรรมต่าง ๆ ทำร่วมกับลูกน้อยของคุณในบ้านแทน
ข้อมูลอ้างอิงจาก : bestreview.asia